บมจ.ฑีฆาก่อสร้าง TEKA เดินหน้าธุรกิจด้วยกลยุทธ์ ขยายงานเจาะฐานลูกค้าเดิม รับภาพรวมงานอาคารแนวสูงขยายตัว และเจาะตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ พร้อมมุ่งรักษาคุณภาพยกระดับบริษัทก่อสร้างชั้นนำของประเทศ ด้านผู้บริหาร “ดร.วีระศักดิ์ วานิชวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตั้งเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่ 2,000-2,200 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 10-15%

ดร.วีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตยั่งยืน โดยทั้งปี 2566 นี้ บริษัทฯ เดินหน้าธุรกิจด้วยกลยุทธ์ ขยายงานในฐานกลุ่มลูกค้าเดิม โดยมุ่งรักษาคุณภาพและมาตรฐานการทำงานยกระดับบริษัทก่อสร้างชั้นนำของประเทศ พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่ 2,000-2,200 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 10-15%

นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดภาพรวมของอุตสาหกรรมก่อสร้างปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัว จากงานประมูลก่อสร้างภาคเอกชน ที่ขยายตัวได้ดีโดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัย และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ซึ่ง TEKA ได้รับอานิสงส์เชิงบวกและเพิ่มโอกาสในการประมูลงานภาคเอกชนมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสเจาะตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ อาทิ กลุ่มงานค้าปลีก กลุ่มงานอาคารสำนักงาน เพื่อขยายฐานลูกค้าให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น

ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,442 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 62.98 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3 บริษัทมีรายได้ 587 ล้านบาท เติบโต 25% จากไตรมาส 2 โดยเริ่มรับรู้งานโครงการใหม่ ราชเทวี ที่บริษัทประมูลมาได้ใหม่ มาเสริมฐานรายได้ให้เติบโตขึ้น และบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญด้านคุณภาพงานที่ดี รวมถึงการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัทฯ และสามารถส่งมอบงานที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ตรงเวลา ซึ่งสะท้อนได้จากการที่บริษัทได้รับรางวัล ผู้รับเหมาก่อสร้างดีเด่น จาก Developer ชั้นนำของประเทศ ที่เชื่อมั่นในผลงานการก่อสร้างของบริษัท TEKA”ดร.วีระศักดิ์  กล่าว

ดร.วีระศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ปีนี้บริษัทฯ เซ็นสัญญารับงานใหม่ไปแล้วรวมมูลค่ากว่า 2,380 ล้านบาท ได้แก่ 1. “โครงการ นิว คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง” มูลค่า 954 ล้านบาท จาก บริษัท คอนติเนนตัล ซิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลในเครือ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ระยะเวลาก่อสร้าง 16 เดือน โดยเริ่มต้นก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ 2566

2. “โครงการ ARLO LASALLE 17” มูลค่า 328 ล้านบาท จาก บริษัท เรียลลาซาล 17 จำกัด กำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 9 เดือน เริ่มต้นก่อสร้างในเดือนพฤษภาคม 2566

3. โครงการ ราชเทวี มูลค่าโครงการ 1,098 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 37 เดือน จากบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งนับเป็นโครงการต่อเนื่องโครงการที่ 3 แล้วที่ทางบริษัท ได้รับความไว้วางใจจากทางบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่มอบหมายงานก่อสร้างอาคารให้กับบริษัทเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งสะท้อนถึงความไว้วางใจจากผู้ประกอบการที่มั่นใจในศักยภาพของ TEKA ส่งผลให้มีงานในมือ (Backlog) ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3,200 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2568